ประวัติความเป็นมาของชาติไทย

ประวัติความเป็นมาของชาติไทย

       

           ประเทศไทย ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอินโดจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรูปแบบเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และปกครองในประชาธิปไตยแบบรัฐสภา การปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็น 75 จังหวัด มีศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดินที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นทั้งเมืองหลวงและศูนย์กลางการดำเนินงานต่าง ๆ
           ประเทศไทย มีเนื้อที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร ประมาณ 64 ล้านคน  มีภาษาไทยเป็นภาษาราชการ พลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศนับถือศาสนาพุทธ ประเทศไทยมีรายได้หลักจากภาคอุตสาหกรรมและ
การบริการ  แรงงานไทยส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญที่สุดของประเทศ ถือได้ว่าเป็นประเทศซึ่งส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก  

    ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในอดีต ได้มีมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ยุคหินเก่าเป็นต้นมา ภูมิภาคดังกล่าวได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมและทางศาสนาจากอินเดีย แต่สำหรับรัฐของคนไทยแล้ว ตามตำนานโยนกได้บันทึกว่า การก่อตั้งอาณาจักรของคนไทยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 1400

อาณาจักรสุโขทัย

      ภายหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิขะแมร์  ทำให้มีรัฐเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในเวลาไม่นานนัก นักประวัติศาสตร์ไทยเริ่มถือเอาสมัยอาณาจักรสุโขทัย เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ชาติไทย อาณาจักรสุโขทัยขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวางในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แต่เริ่มอ่อนแอลงภายหลังการสวรรคตของพระองค์ การรับพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์เข้ามา ทำให้อาณาจักรสุโขทัยเริ่มมีการปกครองแบบธรรมราชา

อาณาจักรอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น

      พระเจ้าอู่ทองทรงก่อตั้งอาณาจักรอยุธยาเป็นอาณาจักรของชนชาติไทยขึ้นมีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช  การเข้าแทรกแซงสุโขทัยอย่างต่อเนื่องทำให้อาณาจักรสุโขทัยตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรอยุธยา ต่อมา ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ   พระยายุทธิษฐิระ เอาใจออกห่างไปเข้ากับอาณาจักรล้านนา พระองค์จึงทรงไปประทับอยู่ที่เมืองพิษณุโลกและทำสงครามกับอาณาจักรล้านนาเป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงปฏิรูปการปกครองใหม่ ซึ่งบางส่วนได้ใช้มาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

       การยึดครองมะละกาของโปรตุเกส ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทำให้อยุธยาเริ่มการติดต่อกับชาติตะวันตก เมื่อราชวงศ์ตองอูของพม่าเริ่มมีอำนาจมากขึ้น เริ่มการขยายดินแดนมายังกรุงศรีอยุธยาในสมัยของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และพระเจ้าบุเรงนอง การสงครามอันยาวนาน  ส่งผลให้อยุธยาตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรตองอูในที่สุด สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้เวลา 15 ปีเพื่อสร้างภาวะครอบงำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งหนึ่ง

       จากนั้น อยุธยากลายเป็นรัฐที่ทรงอำนาจมากที่สุดในภูมิภาค เช่นเดียวกับอำนาจทางทะเลในคาบสมุทรทางตอนใต้ โดยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอยุธยารุ่งเรืองขึ้นอย่างมากในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  อย่างไรก็ตาม อิทธิพลซึ่งเพิ่มมากขึ้นของชาวต่างชาติ นำไปสู่การสังหารคอนสแตนติน ฟอลคอน สมุหนายก โดยพระเพทราชา ความสัมพันธ์กับต่างชาติก็เสื่อมโทรมลงตั้งแต่นั้น

       อาณาจักรอยุธยาเริ่มเสื่อมอำนาจลง การสงครามกับราชวงศ์อลองพญา ส่งผลให้อยุธยาถูกปล้นสะดมและเผาทำลาย ในปีเดียวกัน พระยาตากได้รวบรวมไพร่พลกอบกู้เอกราช และย้ายราชธานีมาอยู่ที่กรุงธนบุรี จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้น โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง

ในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไทยเผชิญกับการรุกรานจากพม่าครั้งใหญ่  นอกจากนี้ ไทยยังมีอำนาจครอบคลุมส่วนใหญ่ของลาวและกัมพูชา แต่ไทยประสบกับการรุกรานในกบฎเจ้าอนุวงศ์ และการรุกรานจากเวียดนามหลายครั้ง

การเผชิญหน้ากับชาติตะวันตก

                                           การสูญเสียดินแดนให้กับฝรั่งเศส และอังกฤษ

       ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เซอร์จอห์น เบาริ่ง ราชทูตอังกฤษ ได้เข้ามาทำสนธิสัญญาเบาว์ริง อันเป็นสนธิสัญญาฉบับแรกที่ทำกับต่างชาติ ตามด้วยการทำสนธิสัญญาอีกหลายฉบับ ต่อมา การคุกคามของฝรั่งเศสและอังกฤษทำให้สยามเสียดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสและอังกฤษ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาณาจักรสยามก็ยังเป็นรัฐเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกเลย  และดำรงบทบาทของตนเป็นรัฐกันชนระหว่างประเทศเจ้าอาณานิคมทั้งสอง

       พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้สยามเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยอยู่ฝ่ายเดียวกับฝ่ายพันธมิตร นำมาซึ่งการแก้ไขสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมทั้งหลายเพื่อให้ชาติมีอธิปไตยอย่างแท้จริง 

การเปลี่ยนแปลงการปกครอง สงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามเย็น

       วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ได้มีการปฏิวัติ ซึ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้ลงนามเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่น และประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

       ในช่วงสงครามเย็น ประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา โดยมีนโยบายในการต่อต้านการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค  ต่อมา ประเทศไทยประสบกับปัญหาการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ในประเทศแต่ในภายหลังพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก็กลับอ่อนแอลงจนไม่สามารถปฏิบัติการได้อีก

การพัฒนาประชาธิปไตย

                            

  

       หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งเป็นคนแรก ภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาประเทศไทยไร้เสถียรภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองของทักษิณ ชินวัตร มีการประท้วงเพื่อขับไล่ออกจากตำแหน่งโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากนั้นได้เกิดรัฐประหารทำให้ประเทศอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารเป็นเวลาหนึ่งปี การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงดำเนินต่อไปในสมัยรัฐบาลสมัครและรัฐบาลสมชาย ก่อนที่การเมืองจะพลิกขั้ว เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี  น.ป.ช. จึงเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์